DSI จับกุมตัวผู้กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์

194 จำนวนผู้เข้าชม  | 

DSI จับกุมตัวผู้กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์

วานนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2566) พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สั่งการให้ นายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนสะกดรอยและการข่าว พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 1 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการจับกุม นายต้น ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษที่ 19/2561 ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหาฯ
ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการที่ 1 ของศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการสืบสวนตลอดจนรวบรวมข้อมูลด้านการข่าวมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 17.35 น. ได้พบตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1571/2566 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จึงได้แสดงหมายจับ แจ้งสิทธิตามกฎหมายและแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่ากระทำความผิดฐานกระทำความผิดร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระ จัดหา ฉ้อฉล หลอกลวงใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นโดยมิชอบ เพื่อการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี โดยกระทำลงนอกราชอาณาจักร, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตามและเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี, ร่วมกันเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง และได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ซึ่งผู้ต้องหาทราบและเข้าใจข้อหาโดยตลอด ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งมอบให้แก่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ในขณะจับและควบคุมจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษนั้น เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่อง ตามที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 กำหนดไว้แล้ว
คดีพิเศษดังกล่าวสืบเนื่องจากมูลนิธิพิทักษ์สตรี ได้ประสานงานขอให้ช่วยเหลือนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี สัญชาติเมียนมาร์ กับพวก ผู้เสียหายที่เข้าข่ายตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ซึ่งถูกกลุ่มนายหน้านำพามาขายบริการทางเพศในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และส่งต่อไปยังพื้นที่อื่นอีกหลายจังหวัด มีการแสวงหาประโยชน์จากการขายบริการทางเพศเด็กหญิงสาว อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งมีลักษณะการกระทำเป็นขบวนการ และหรืออาจมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยลักษณะพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้อนุมัติให้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) จนนำไปสู่การพบการกระทำความผิดของผู้ต้องหารายดังกล่าว



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้