1524 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 นี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ และตัวแทนผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์อ่าวลึก สหกรณ์จังหวัดกระบี่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน พื้นที่ 796 ไร่ ที่ถูกบุกรุกโดยบุคคลและกลุ่มบุคคล ขโมย เอาทรัพย์สินของทางราชการเพื่อการค้า ซึ่งเป็นพื้นที่เป็นคดีพิเศษที่ 22/2567 พบว่ามีการก่อสร้างบ้านตากอากาศ มีการเดินระบบน้ำ มีการปลูกทุเรียน มีบ้านพักสภาพเป็นบ้านพักคนงาน และพื้นที่ที่เหลือ มีการปลูกปาล์มน้ำมันเต็มพื้นที่ มีการแบ่งพื้นที่โดยใช้สีแดงและหลักปักเชิงสัญญาลักษณ์ มีการแผ้วถางและร่องรอยการตัดผลปาล์มใหม่ จากข้อมูลแหล่งข่าวยืนยันว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวมีนายทุนชาวจังหวัดภูเก็ต ได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่เพื่อการปลูกปาล์ม และหมดสัญญาแล้ว แต่คงค้างค่าเช่าต่อกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเงินจำนวนกว่า 20 ล้านบาท และในเวลาต่อมามีกลุ่มบุคคลจำนวน หลายสิบรายได้เข้าไปปักหลักซิเมนต์และแบ่งพื้นที่กันตัดผลปาล์มนำไปจำหน่ายลานเทปาล์มน้ำมันโดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย โดยมีอดีตนักปกครอง ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อาสาสมัครหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่บังคับใช้กฏหมาย และผู้ปกครองท้องที่บางราย รู้เห็นร่วมวางแผ่นเพื่อนำทรัพย์ของแผ่นดินไปขายแบ่งปั่นผลประโยชน์กัน
ร้อยตำรวจเอกปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ข้อมูลว่าในฐานะ ได้รับมอบหมายจาก พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รักษาราชการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้รับผิดชอบบริหารกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษที่ 22/2567เพื่อสอบสวนพิสูจน์บุคคลและกลุ่มบุคคลซึ่งกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมายในการบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวที่อยู่ในความรับผิดชอบของนิคมสหกรณ์อ่าวลึก กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชน และรักษาประโยชน์ของรัฐ หากพบการกระทำความผิดทางอาญาจะได้ดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุดต่อไป และยึดคืนพื้นที่กลับมามอบให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ นำไปจัดสรรที่ดินให้แก่ผู้ที่มีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติการจัดที่ดินสหกรณ์นิคมต่อไป