1376 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อวันพุธ ที่ 31 กรกฎาคม 2567 ในคดีพิเศษที่ 21/2564 ภายหลังจากที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นสั่งฟ้องอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด กับพวก รวม 34 ราย ในความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษพร้อมตัวผู้ต้องหาไปส่งให้แก่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้ มีผู้ต้องหาจำนวน 18 รายถูกควบคุมในคดีอาญามูลฐานตามอำนาจ
ศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีหมายเลขดำที่ 1095/2567 โดยถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 ราย และถูกคุมขังที่ฑัณทสถานหญิงกลาง จำนวน 8 ราย จึงได้นำส่งตัวผู้ต้องหาที่เหลือจำนวน 16 ราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด
ได้ร้องทุกข์ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินกับอดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ โดยการสอบสวนพบว่า อดีตผู้บริหารกับพวก รวม 34 ราย ได้นำเงินของสหกรณ์ไปทำการโอน รับโอน เปลี่ยนแปลงสภาพ โดยมีเจตนาซ่อนเร้น หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือ รับโอนโดยโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ
การกระทำความผิดอันเป็นความผิดฐาน “ฟอกเงิน” ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นเหตุให้สหกรณ์ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 2,998,732,000 บาท ทั้งนี้ ในส่วนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินดำเนินมาตรการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายเพื่อนำเงินมาคืนหรือชดใช้คืนแก่สหกรณ์ผู้เสียหาย ต่อไป