1675 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อวันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.30 น. พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวน
คดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พันตำรวจโท จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ซึ่งเป็นเลขานุการคณะทำงานเข้าร่วมประชุมคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ครั้งที่ 3/2567 โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนาเป็นประธานการประชุม และผู้แทนจากกรมบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นสามัญ รวมถึงผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) บมจ.ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ ณ ห้องประชุม 10-01 อาคารกระทรวงยุติธรรม
ภายหลังการประชุม นายพงศ์เทพฯ ได้แถลงความคืบหน้าต่อสื่อมวลชนว่า ก.ล.ต. กำลังพัฒนาระบบ
ในการป้องกันและติดตามการกระทำที่ไม่ถูกต้องในตลาดหลักทรัพย์ โดยที่ประชุมได้รับฟังข้อมูล องค์ความรู้
และข้อคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ทางด้านตลาดทุนถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินคดีพิเศษที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากข้อมูลที่หน่วยงานไม่สามารถให้กับผู้เสียหายได้ ผู้เสียหายที่ไปดำเนินการด้านคดีเอง
จึงประสบปัญหาจากการขาดข้อมูลเป็นจำนวนมาก จึงได้เสนอแนะแนวทางให้หน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น ก.ล.ต.
ว่าจะสามารถดำเนินคดีแบบกลุ่มให้กับผู้เสียหายได้หรือไม่ รวมถึงรับฟังข้อมูลความคืบหน้าการดำเนินคดี และการติดตามทรัพย์สินในคดีทุจริตหุ้น STARKจากผู้แทนสำนักงาน ปปง. โดยปัจจุบันมีการยึดทรัพย์จำนวนกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งทรัพย์ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย และมีที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีทรัพย์อยู่ในสหราชอาณาจักรแต่อย่างใด
ในกรณีผู้เสียหายที่ดำเนินการซื้อหุ้นกันเองในตลาดหลักทรัพย์ ในส่วนของทรัพย์สินที่สำนักงาน ปปง.
ยึดไว้และอยู่ที่ศาล ผู้ที่ขอเฉลี่ยทรัพย์ได้ คือ ผู้ที่ถือหุ้นกู้และผู้ที่ซื้อหุ้นโดยตรงกับบริษัท ซึ่งผู้ที่ซื้อหุ้นกันเองในตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถขอเฉลี่ยทรัพย์ในส่วนนี้ได้ และในส่วนของความคืบหน้าของบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอฟื้นฟูกิจการ โดยจะต้องทำแผนฟื้นฟูกิจการ
เพื่อนำส่งต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายในวันที่ 13 สิงหาคม 2567
ทั้งนี้ในส่วนของคณะทำงานฯคาดว่าจะสามารถสรุปและจัดทำรายงานผลการศึกษาแผนประทุษกรรมฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
ทั้งนี้ ก.ล.ต. กำลังมีระบบของการตรวจสอบบริษัท เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของบริษัทตั้งแต่ช่วงต้นว่าบริษัทใดที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษซึ่งเป็นบริษัทที่เข้าข่ายว่าจะมีมูลเหตุจูงใจที่จะก่อให้เกิดการกระทำความผิด รวมถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ได้พัฒนาระบบที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ