585 จำนวนผู้เข้าชม |
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวน กรณีที่มีการกล่าวโทษ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับพวกในความผิดฐานลงข้อความอันเป็นเท็จในบัญชีหรือเอกสารและงบการเงินของบริษัทฯ ความผิดฐาน แสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในแบบแสดงรายการข้อมูล
การเสนอขายหลักทรัพย์หรือร่างหนังสือชี้ชวน และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และประมวลกฎหมายอาญา โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 14,778,000,000 บาท ภายหลังมีการนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว นั้น
กรณีดังกล่าว พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเห็นว่าเป็นกรณีที่มีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง จึงมีคำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่ 158/2567 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2567 แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรม กรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ขึ้น โดยมี นายพิชัย นิลทองคำ เป็นประธานคณะทำงานและคณะทำงานประกอบด้วย ผู้แทนอัยการสูงสุด อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านตลาดทุน รวมทั้งกฎหมาย และตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นสามัญ รวม 10 ท่าน เป็นคณะทำงานโดยมีผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวน คดีพิเศษ เป็นเลขานุการคณะทำงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแผนประทุษกรรมคดี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ทั้งด้านข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยถอดบทเรียนและวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายและกรอบการดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษและการเพิ่มประสิทธิภาพในการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของตลาดทุนและตลาดเงินเพื่อสร้างระบบการกำกับดูแลตรวจสอบและแจ้งเตือนล่วงหน้า อันเป็นมาตรการเชิงรุก เพื่อให้ตลาดเงินและตลาดทุนมีเสถียรภาพ ความน่าเชื่อถือ และความโปร่งใสตรวจสอบได้ตามมาตรฐานสากล