“รมว.ยุติธรรม” ปิดการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารด้านสิทธิมนุษยชนระดับสูง (บสส.รุ่นที่ 1 ) พร้อมฝาก “สิทธิมนุษยชน” เป็นหลักพื้นฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม

วันพุธที่ 27 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 6 ชั้น 5 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์แจ้งวัฒนะ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารด้านสิทธิมนุษยชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 1 โดยมี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อาจารย์ที่ปรึกษาหลักสูตร บสส. รุ่นที่ 1 นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางสุจิตรา แก้วไกร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรนักบริหารด้านสิทธิมนุษยชนระดับต้น ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรนักบริหารด้านสิทธิมนุษยชนระดับกลาง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
สำหรับการจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร บสส. รุ่นที่ 1 ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน ถึง วันที่ 27 กันยายน 2566 เพื่อสร้างและพัฒนาความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และภาคประชาสังคม โดยมีวิทยากรเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดกระบวนการบรรยาย การเสวนา การจัดทำเอกสารกลุ่มและเอกสารรุ่น โดยพบอาจารย์ที่ปรึกษา และการศึกษาดูงานภายในประเทศ และการศึกษาดูงานต่างประเทศ ณ ราชอาณาจักรสวีเดน เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอก ให้เกิดความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ เครือข่ายผู้บริหารด้านสิทธิมนุษยชน และเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงาน ชุมชน สังคมและประเทศชาติต่อไป ทั้งนี้ื นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท วรรณรักษ์ คชรัตน์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สำเร็จการอบรมหลักสูตร บสส.รุ่นที่ 1 ด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สิทธิมนุษยชนเป็นหลักพื้นฐานสำคัญ ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมโลกที่จะขับเคลื่อนให้เกิดสิทธิมนุษยชนขึ้นได้ ไม่ว่าในอดีตเรามองสิทธิมนุษยชนคล้ายกับปรัชญาและศาสนาที่ถูกสร้างโดยนักทฤษฎี นักคิด นักวิทยาศาสตร์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิทธิมนุษยชน คือ ความเป็นจริงในสังคม ควรได้ความคุ้มครองด้วย “หลักนิติธรรม” โดยถ้าจะทำให้ลุล่วง นอกจากนี้ ตามปฏิญญาสากลด้านสิทธิมนุษยชน ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน ไม่แบ่งแยก สิทธิในการมีชีวิตเป็นสิทธิมนุษยชน ไม่ถูกทรมาน ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย มีความเท่าเทียม มีสิทธิได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย ไม่ถูกคุมขังโดยพลการ ได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน ถือเป็นสิทธิส่วนตัวที่มีเท่ากันและมีอยู่อย่างมากมาย การแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ชี้ภาพในอนาคต 4 ปีข้างหน้าไว้ว่า รัฐบาลจะวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่กับประเทศ โดยยึดหลักนิติธรรมให้เข้มแข็งและน่าเชื่อถือ มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จและบรรลุผลเป็นรูปธรรม โดยอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ตรวจสอบได้ จากที่ได้รับฟังการสรุปผลงานในวันนี้ทำให้มีความหวัง เพราะในอดีตมองสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องที่อยู่ไกล มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระของคนที่มีอำนาจนิยม อย่างน้อยที่สุดในพื้นที่ที่ถูกมองว่าถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนมากที่สุด ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่รัฐและประชาชนมองต่างกัน จึงเป็นโอกาสดีที่หลักสูตรนี้จะได้ถูกนำไปใช้ เพราะหัวใจสำคัญ คือ การมีส่วนร่วมประชาชน นั่นคือ ความเป็นประชาธิปไตย ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน พร้อมทั้งขอชื่นชมหลักสูตรนี้ที่ได้เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามาร่วมรับการอบรม เพราะวันนี้ภาคประชาชนได้นำหลักสูตรสิทธิมนุษยชนไปใช้มากขึ้น รวมทั้งหลักสิทธิมนุษยชนถือเป็นการอยู่ร่วมกันของคนทั้งโลกแล้ว

********************************