นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก หวังแก่แก้ปัญหาด้านการท่องเที่ยว เสริมสร้างศักยภาพท่าอากาศยาน รองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม นี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว และนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกหลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา
โดยการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับฟังปัญหาการให้บริการและการเตรียมพร้อมรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นลำดับแรกเนื่องจากจุดแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงคือสนามบินมารับฟังความคิดเห็นจากทางจังหวัดว่าข้อมูลพื้นฐานมีอะไรบ้างแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นหรืออนาคตอยากจะทำอะไรทีมรัฐบาลจะไปร่างนโยบายตอบสนองต่อความต้องการของท่าอากาศยานและจังหวัดเรื่องของนักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาแล้วคิดว่าทีมงานพรรคเพื่อไทย การกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะที่จะดีที่สุดในระยะสั้น คือการท่องเที่ยวซึ่ง ขนาดนี้จะเข้าสู่ช่วงของฤดูกาลท่องเที่ยวหรือช่วงไฮซีซั่นการเตรียมการการรับฟังข้อมูลของทุกภาคส่วนเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะขนาดนี้ยังไม่ได้เข้ามาบริหารประเทศอย่างที่ แต่ก็ต้องรับฟังข้อมูลเพื่อเตรียมข้อมูลที่จะไปวางแผน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวร้อยละ 30 ซึ่งทุกคนทราบกันดีว่านักท่องเที่ยวจีนเป็นสัดส่วนที่สำคัญ แม้ว่าขณะนี้ประเทศจีนอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย และสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศ แต่เราควรเตรียมความพร้อมทำตัวให้ง่าย หรืออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งด้านความปลอดภัย การเดินทางเข้าประเทศเป็นเรื่องที่เป็นเรื่องลำดับต้นต้นที่จะต้องมีการบริหารจัดการให้ดี หรือในการไม่ต้องทำวีซ่าในการเดินทางข้ามประเทศ นอกจากนี้เรื่องของสนามบินและความมั่นคง

สำหรับเหตุผลที่เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้ลำดับต้นต้นให้กับประเทศ ในส่วนเรื่องของการขยายสนามบินจะต้องกลับไปหารือกับทางสภาพัฒน์ ทั้งในส่วนของสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ และภูเก็ต รวมทั้งการขยายรันเวย์ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากสนามบินภูเก็ต ใกล้จะถึงจุดที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดแล้ว ส่วนราคาตั๋วโดยสารที่มีราคาแพงและ การบริหารจัดการเรื่องกระเป๋า หรือแม้แต่รถโดยสารสาธารณะอยู่ระหว่างการพูดคุยหารือ แต่ได้รับทราบข้อมูลมาแล้ว

นายเศรษฐา กล่าวว่าสำหรับเรื่องของแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีนั้น ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะดูแลในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้พรรคมีความชัดเจนลงตัวในทุกตำแหน่งแล้ว แต่ในส่วนของภาพรวมคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ขอให้อดใจรอในอีก 3-4 วัน คาดว่าน่าจะชัดเจน และต้องให้เกียรติพรรคร่วมในการพิจารณาตัวบุคคล ส่วนตนเองจะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่นั้น ขอให้อดใจรอนิดนึง และยังคงคาดหมายว่า ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้จะสามารถเริ่มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีได้ รวมทั้ง หวังว่าจะสามารถประชุมครม.นัดแรก และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้เร็วกว่า timeline ที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะอยากให้มีการนับหนึ่งได้แล้ว

ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีพบปะพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการนักธุรกิจ ภาคเอกชน 16 องค์กร

นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดชประธานคณะกรรมการนโยบายนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรมนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศลนายจักรพงษ์ แสงมณีนายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ และนายศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญคณะทำงานด้านนโยบายการท่องเที่ยวร่วมกันพบปะพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการนักธุรกิจ ภาคเอกชน 16 องค์กรโดยมีตัวแทน บรรยายสรุป ผ่าน โปรเจคเตอร์ 10 หน่วยงาน ที่ โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า ในเวลาประมาณ 14.15- 16.30 น.เพื่อพูดคุยประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต

นายเศรษฐา กล่าวต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า แม้ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตก็ตามแต่รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 นี้ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก การ เดินทางมาในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการสั่งการแต่เป็นการมาร่วมรับฟัง ข้อมูล ด้านการท่องเที่ยว ของตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการ ตั้งแต่ภาคเช้าวันนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิและเดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตโดยรับทราบข้อมูลทางด้านการบินในพื้นที่ และศักยภาพ ของท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เช่นเดียวกันนอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและในภาพรวม ต้องการที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกมิติ ครอบคลุมไปถึง การพัฒนาเส้นทางการคมนาคม โครงข่าย เชื่อมโยงเช่นอุโมงค์กระทู้ป่าตอง ที่ยังมีความล่าช้า รวมไปถึงความจำเป็นที่จะต้อง สร้าง ระบบ การประปา ที่ มีความ เหมาะสม โดยการต่อท่อ น้ำมาจาก จังหวัดพังงา

สำหรับการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ที่พล.อ.ประยุทธ์ เลื่อนเคาะตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ เพื่อรอนายกรัฐมนตรีเป็นคนดำเนินการนั้น เรื่องนี้ต้องคอยก่อน ให้ผ่านการถวายสัตย์ฯ ก่อน รวมถึงต้องมีการแถลงนโยบาย จากนั้น แล้วแต่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ จะมีการนัดประชุมเมื่อไหร่ และขอบคุณท่านที่นายกฯประยุทธ์ ให้เกียรติ
หลังจากนั้น นายเศรษฐา และคณะได้ ลงพื้นที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต พบปะผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว โดยได้เดินทักทายนักท่องเที่ยวในซอยรมณีย์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นซอยที่ติดอันดับ 19 ของโลก มีประชาชนและนักท่องเที่ยวมารอต้อนรับพร้อมกับถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก บรรยากาศ เต็มไปด้วยความชื่นมื่น

จากนั้น ได้เดินไปยังบ้านเลขที่ 92 เพื่อเยี่ยมชมสาธิตการผัดหมี่ฮกเกี้ยน พร้อมทั้ง ทำขนมเต่าแดง หรือ ขนมอั๊งกู่ ขนมมงคลพื้นเมืองของชาวภูเก็ต และได้พูดคุยกับ นายสมยศ ปาทาน ประธานชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี ส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน และพัฒนาเส้นทางการขนส่งคมนาคม เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต

นอกจากนี้ นายนายสาโรจน์ อังคณาพิลาศ นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้เสนอให้ นายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังระยะยาว ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และเป็นภาพลักษณ์ที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับการท่องเที่ยว